ไขมันสะสมในร่างกายและวิธีสลายไขมันอย่างง่ายๆ

เรื่องของไขมันสะสมและวิธีสลายไขมัน

          ไขมันสะสมในร่างกายหมายถึง ปริมาณไขมันทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกาย ในบรรรดาสารอาหารที่ร่างกายรับเข้าไปนั้น เมื่อเหลือจากการนำไปใช้ก็จะสะสมอยู่ภายใน เมื่อถึงคราวจำเป็นร่างกายจะนำไปใช้โดยการเปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยมีค่าเฉลี่ยของไขมันสะสมในผู้ชายคือ 10-20 เปอร์เซ็นต์ และผู้หญิงคือ 18-29 เปอร์เซ็นต์ แต่เนื่องจากแต่ละคนออกกำลังกายแตกต่างกันจึงมีปริมาณไขมันแตกต่างกันไปด้วย จึงไม่ควรยึดถือตัวเลขจนเกินไป ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเอาใจใส่ไขมันสะสมนี้ให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องจัดการไขมันสะสมในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ด้วย 5 วิธีปรับพฤติกรรมการกินและปรับปริมาณการออกกำลังกาย ดังนี้

1.เวลาอาบน้ำตอนกลางคืน ลองทำให้ร่างกายเย็นลงประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ใช้น้ำอุ่น โดยค่อยเพิ่มอุณหภูมิของน้ำอาบขึ้นไปและค่อยๆลดอุณหภูมิน้ำลง ถ้าทำได้ดังนี้ ร่างกายจะพยายามรักษาระดับอุณหภูมิในร่างกายไว้เมื่อได้รับความเย็น ซึ่งจะเป็นการเผาผลาญพลังงาน ในกรณีที่มีเวลามากไม่ควรใช้ผ้าเช็ดตัวซับน้ำในทันทีทันใด ปล่อยให้ตัวแห้งไปเองจะดีกว่า

2.เลือกดื่มน้ำเย็นมากกว่าการดื่มน้ำอุ่น เพราะน้ำเย็นจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดง และจะเกิดการเผาผลาญพลังงาน ตามทฤษฏีเดียวกับการอาบน้ำในข้อ1

3.ในการสนทนา ควรใช้ภาษาท่าทาง(body language)บ่อยๆถือเป็นการเผาผลาญพลังงานอีกวิธีหนึ่ง ตอนที่หัวเราะก้หัวเราะให้เต็มที่ เวลาร้องไห้ก็ร้องไห้แบบไม่ต้องเก็บซ่อน ประทับใจอะไรก็แสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาและเต็มที่ คู่สนทนาจะรู้สึกยินดีกับท่าทางที่มีชีวิตชีวาของเราและเรายังได้เรื่องการเผาผลาญพลังงานอีกด้วย

4.การกินอาหารรสเผ็ดร้อน สารประกอบที่อยู่ในพริกจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกายและทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานเป็นไปอย่างกระตือรือร้นสำหรับพริกนั้นในเวลาเพียง4 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้25 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นลองใส่พริกลงไปในจานสลัดหรือเพิ่มในกับข้าว

5.ขณะดูโทรทัศน์หรือดูภาพยนตร์ให้แสดงความรู้สึกร่วมออกมาอย่างเต็มที่จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ดูภาพยนต์จบ1 เรื่องจะเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 20 กิโลแคลอรี่