กรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นส่วนประกอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปลาและน้ำมันจากปลา อีพีเอ (EPA: กรดไอโคซาเพนทาโอนิก) และดีเอชเอ (DHA: กรดด็อกโคซาเฮกซาโนอิก) ไขมันที่ดีเหล่านี้มีอยู่ในไข่ด้วย แต่ปริมาณน้อยกว่าและมีการค้นพบว่า ไขมันโอเมก้า-3 อาจมีคุณสมบัติในการป้องกันและรักษาที่ยอดเยี่ยมมาก ยกตัวอย่างเช่น
หากคุณไม่ชอบปลาหรือไม่สามารถรับประทานปลาได้อย่างสม่ำเสมอ อาจเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทน้ำมันปลา หรือ Fish Oil แทนก็ได้ น้ำมันจากปลาทะเลเข้มข้นประมาณ 10 แคปซูลมักจะมีอีพีเออยู่ 1.8 กรัม (แซลมอน 4 ออนซ์จะมีอีพีเอประมาณ 1 กรัม) กรดแอลฟาไลโนเลนิก (ALA) ซึ่งพบมากในเมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท และเมล็ดฟักทอง ก็จัดเป็นแหล่งของโอเมก้า-3 ที่ดีเช่นกัน
ถึงแม้ว่าปลาบางชนิดจะมีโอเมก้า-3 สูง ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะรับประทานปลาชนิดนั้นในปริมาณมาก ปลาใหญ่ที่กินปลาอื่นเป็นอาหารจะมีสารปรอทสะสมในปริมาณสูง เช่นเดียวกับสารพิษ PCBs (พอลิคลอริเนเทดไบฟีนิล: พิษจากสารปรอททำให้ความจำเสื่อม ซึมเศร้า เส้นประสาทถูกทำลาย พิการแต่กำเนิด เป็นโรคหัวใจ และอื่น ๆ อีกมากมาย) และด้วยเหตุผลนี้เอง ถึงแม้ว่าองค์การอาหารและยาและองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกายังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าระดับที่ "ปลอดภัย" ของสารปรอทในปลาควรจะเป็นเท่าใด แต่ก็ได้ระบุรายชื่อปลาที่เด็กและหญิงมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง และทุกคนที่เป็นห่วงสุขภาพควรที่จะหลีกเลี่ยงด้วย
ปลาที่ควรหลีกเลี่ยง
ปลาฉลาม ปลาอินทรี ปลาทูน่า ปลากะพง ปลาจำพวกกะพงปากกว้าง ปลาสำลีน้ำลึก และปลาเก๋า
ปลาและอื่น ๆ ที่ควรรับประทาน
ปลาซาร์ดีน แซลมอน กุ้ง ปลานิลทะเล ปลาดุกทะเล หอยกาบ และหอยนางรม (โดยทั่วไป สัตว์ทะเลที่มีเปลือกจะมีปรอทต่ำ หอยพัดจัดเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน โดยทั่วไปปลาที่เลี้ยงจากฟาร์มมีระดับปรอทต่ำกว่าปลาในธรรมชาติ
ปลาอื่น ๆ เพื่อเป็นตัวเลือก
ปลาตาเดียว ปลามาฮีมาฮี ปลากะพงแดง และปลาเทราต์จัดว่าปลอดภัยสำหรับผู้ชาย และผู้หญิง
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง