กินไขมัน

          ร้านค้ามีอาหารไขมันต่ำแทบทุกประเภทตั้งแต่คุกกี้  เค้ก  โยเกิร์ต  และเต้าหู้  ซึ่งจริง ๆ แล้วร่างกายของเราต้องการไขมันอย่างมาก  แต่ต้องเป็นไขมันที่ดีเท่านั้น

         ไขมัน กลายเป็นคำหยาบไปแล้ว  เป็นประเด็นที่ผู้หญิงรังเกียจและเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของสังคมอย่างไม่ต้องสงสัย  แต่มาลองปรับความคิดกันใหม่  ไขมันนั้นเป็นเพื่อนของเรามารับไขมันไว้ในอ้อมแขนกันเถอะ  มีเพียงข้อยกเว้นเดียวเท่านั้น นั่นคือ คุณต้องแน่ใจว่าไขมันเพื่อนของคุณเป็นไขมันที่ถูกประเภท

          เรามีปมด้อยเกี่ยวกับไขมัน  เราถูกปลูกฝังมาว่าไขมันทำให้เส้นเลือดอุดตัน  ทำให้มีรอบเอวเป็นชั้น ๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ  ไขมันยังถูกเกี่ยวโยงกับวายร้ายอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ คอเลสเตอรอล คำพูดที่ว่า "ความอร่อยในปากเพียงชั่วครู่  จะสะสมอยู่ที่สะโพกไปตลอดชีวิต"  คงจะถูกคิดค้นมาจากความกลัวไขมันจนขึ้นสมอง

          นักเขียนหนังสือสุขภาพในยุค 80 และ 90 สร้างภาพไขมันให้เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของทุกคน  กูรูด้านโภชนาการผู้หวังดีได้เขียนหนังสือบอกให้เราหลีกเลี่ยงไขมันทุกวิถีทาง  อย่างไรก็ตาม  ไขมันไม่เหมือนกันทุกประเภทและกว่าเราจะรู้ว่าการหลีกเลี่ยงไขมันโดยสิ้นเชิงเป็นผลเสียต่อสุขภาพ  ก็อาจจะสายไปเสียแล้ว

          น้ำมันที่ยังไม่แปรรูปจะเสียง่ายมาก  ในอดีต  ก่อนที่ผู้คนจะพากันเข้ามาอยู่ในเมือง  ยังมีการขายน้ำมันกันตามบ้าน  เราอาจจะนึกภาพไม่ออกถ้าจะบอกว่าน้ำมันต้องเก็บไว้ในที่เย็น  และมันก็เสียง่ายภายในเวลาไม่กี่วัน  เพราะเราคุ้นชินกับน้ำมันแปรรูปสีเหลืองสวยบรรจุขวดวางอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต  คนขายมักบอกให้เราซื้อน้ำมันแบบไม่อิ่มตัว  หรือน้ำมันแบบไม่มีคอเลสเตอรอล  แต่น้ำมันพวกนี้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วด้วยความร้อนสูงและการกัดสี  จนทำให้คุณค่าทางโภชนาการแทบไม่มีเหลือ  ทั้งยังทำให้น้ำมันอาจไม่เสถียรและเป็นพิษต่อร่างกายได้

          ส่วนประกอบทางเคมีของน้ำมันเรียกว่า "กรดไขมัน" กรดไขมันสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์และร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้  กรดไขมันพวกนี้เรียกว่า EFAs (Essential Fatty Acids) หรือกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย  อย่างที่ชื่อของมันบอกไว้  ไขมันพวกนี้จำเป็นกับสุขภาพของเรา  ถ้าเราขาดมันไปสุขภาพของเราก็จะเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว

          EFAs มีผลดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเราอย่างไม่น่าเชื่อ  ผิวของเราถูกเคลือบด้วยสารกันน้ำจากน้ำมัน  ฮอร์โมนและสมองของเราก็ทำงานร่วมกับน้ำมัน  อันที่จริง ส่วนประกอบ 60% ของสมองของเราคือไขมันล้วน ๆ ประโยชน์ของกรดไขมันที่มีต่อมนุษย์เรานั้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ  ไขมันช่วยบำรุงผิวและเส้นผม  ช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบ  ลดระดับคอเลสเตอรอล  และนี่เพียงแค่เริ่มต้นนะ  กรดไขมันยังลดปัญหาโรคหัวใจและโรคเรื้อน  ลดอาการอักเสบในร่างกาย  เข้าไปช่วยในการถ่ายทอดสัญญาณของเซลล์ประสาท  ร่างกายของเราประกอบขึ้นจากเซลล์ขนาดจิ๋วหลายเซลล์  แต่ละเซลล์ก็มีกรดไขมันที่จะช่วยให้กลไกในร่างกายของเราทำงานอย่างไม่มีปัญหา  นอกเหนือจากนี้  กรดไขมันยังลดอาการเสี่ยงของอาการเส้นโลหิตอุดตันด้วย

          กรดไขมันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มง่าย ๆ คือ กลุ่มโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ถ้าเป็นโอเมก้า 6 มักพบในถั่วดิบ เมล็ดพืช และน้ำมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรสหรือน้ำมันงา  โอเมก้า 3 จะพบในปลาทะเลน้ำลึก น้ำมันจากผักบางชนิด น้ำมันเมล็ดป่าน และน้ำมันวอลนัต  เห็นไหมว่า ที่แม่คุณพูดก็ถูกแล้วล่ะ กินปลาเยอะ ๆ จะช่วยให้ฉลาดได้

          จากทั้งหมดที่กล่าวมา  สิ่งหนึ่งที่คุณต้องไม่ทำคือ การปรุงอาหารด้วยน้ำมันที่ทำจากไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะมีความไม่เสถียรสูงมาก  ความร้อนจะทำลายกรดไขมัน  และยิ่งไปกว่านั้น  อาจก่อให้เกิดสารพิษที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ  แค่ฟังชื่อก็ประหลาดแล้ว  เมื่อปรุงอาหาร  เราควรใช้น้ำมันมะกอกซึ่งไม่ใช่ไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย  แต่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว  เพราะจะทนความร้อนสูง

ผู้เชี่ยวชาญด้านไขมัน

          อูโด  อีราสมูส เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไขมัน  เขารู้ทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับไขมันและประโยชน์ของไขมันแต่ละชนิด  ได้กล่าวไว้ว่า  กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายนั้นควรบริโภคในอัตราส่วน 3:1 ถ้าเป็นประเภทโอเมก้า 6 และ 5:1 ถ้าเป็นประเภทโอเมก้า 3  ในความเป็นจริง  ทุกวันนี้เราบริโภคไขมันในอัตราส่วน 10:1 ถึง 20:1 เรากำลังโหมใช้ร่างกายด้วยวิธีผิด ๆ เพราะตอนนี้ร่างกายของเราต้องพยายามเผาผลาญพลังงานในระบบด้วยอัตราส่วนที่ผิดแบบนี้

          คุณอาจจะได้รับโอเมก้า 6 อย่างเพียงพอแล้วก็ได้  เพราะอาหารมีส่วนประกอบของโอเมก้า 6 อยู่เยอะพอสมควร  โดยเฉพาะอาหารแบบตะวันตก  แต่คุณสามารถเพิ่มไขมันประเภทนี้ให้กับร่างกายได้  โดยการบริโภคถั่วและเมล็ดพืช  ลองใส่งา  เมล็ดฟักทอง  หรือเมล็ดทานตะวัน  ในเครื่องบดกาแฟของคุณดูสิแล้วกินเป็นอาหารเช้าทุกเช้า  ส่วนจะได้ไขมันประเภทโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอหรือเปล่า  คุณต้องดูสัดส่วนการกินปลาแบบมีไขมันของคุณ เช่น ปลาแซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน  ถ้าคุณเป็นมังสวิรัติ  คุณอาจกินอาหารเสริมจากเมล็ดป่าน  ในปัจจุบันมีบริษัทผลิตอาหารเสริมมากมายที่คุณสามารถศึกษาและหาซื้อดูได้