คุณคงเคยได้ยินมาหมดแล้วล่ะ คำพูดที่ว่า "คุณจะเป็นในสิ่งที่คุณกิน" แต่ความจริงก็คือ คนที่บ่นว่ามีอาการอ่อนเพลียส่วนใหญ่กินอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน ไม่เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการทำให้ร่างกายมีกำลังวังชาเลย
พวกเราต่างมีเหตุผลของตัวเอง (อย่าเรียกว่าข้ออ้างก็แล้วกัน) ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าควรกินอะไร แต่ชีวิตมันช่างยุ่งเหยิงจนไม่มีเวลาใส่ใจสุขภาพตัวเอง
คุณอาจมีไอเดียอื่น ๆ ที่จะช่วยบำรุงกำลัง แม้คุณจะละเลยสิ่งที่ควรทำพื้นฐานต่าง ๆ แต่ถ้าคุณไม่เริ่มกินอาหารที่มีประโยชน์หลังจากอายุ 25 ปีไปแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์อย่างที่ควรเป็น
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเริ่มทำตามข้อปฏิบัติพื้นฐานต่อไปนี้ คุณก็จะเริ่มรู้สึกดีขึ้น อาหารทุกชนิดมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ อาหารเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มพลังงาน เพียงแต่คุณจะนำเชื้อเพลิงที่ได้จากอาหารแต่ละชนิดไปใช้ได้ยากง่ายไม่เท่ากัน แต่เชื้อเพลิงที่ร่างกายของเรานำไปใช้ได้ง่ายที่สุด มาจากผักผลไม้ ขนมปังธัญพืช แป้งพาสต้า และข้าว เพราะอาหารเหล่านี้แปลงเป็นกลูโคสได้ง่าย เมื่อกลูโคสผสมกับออกซิเจนในเซลล์ภายในร่างกาย จะกลายเป็น ATP เป็นสารที่ให้พลังงานสูงแก่เซลล์ ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในร่างกาย และนำมาใช้เมื่อต้องการ ถ้ากระบวนการนี้ดำเนินไปอย่างปกติร่างกายของเราก็จะแข็งแรงดี และมีพลังงาน แต่ถ้ามีอาการผิดปกติเราก็จะไม่มีแรง
สามวิธีที่ทำให้การสะสมพลังงานของร่างกายผิดปกติ
แล้วเราจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร
ลองทำตามกฎง่าย ๆ ต่อไปนี้ แต่อย่าประมาทไปว่า การเปลี่ยนนิสัยจะทำได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะนิสัยเกี่ยวกับอาหาร คุณต้องค่อย ๆ ทำไปทีละขั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนนิสัยการกิน มาจากนักโภชนาการหลาย ๆ ท่าน นั่นคือ "อย่าเลิก แต่โฟกัสที่การเพิ่ม"
แผนการเพิ่มพลังงานใน 6 สัปดาห์
ในแต่ละสัปดาห์ เพิ่มนิสัยเข้าไปหนึ่งอย่าง คุณจะลองทำนิสัยแต่ละข้อต่อไปนี้พร้อมกันทีเดียวก็ได้ แต่ถ้าคุณคิดว่ามันยากเกินไปที่จะกินอาหารมีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ คุณควรลองนิสัยแต่ละข้อไปสัปดาห์ละครั้ง
1.กินอาหารเช้าทุกวัน ห้ามมีข้ออ้าง
2.กินอาหารกลางวันทุกวัน ห้ามมีข้ออ้าง
3.กินของว่าง ห้ามปล่อยให้ท้องว่างโดยไม่กินอะไรเลยเกินสามชั่วโมง ของว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยให้คุณไม่กินมากเกินไป การกินอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ จะทำให้คุณสูญเสียพลังงานมากถึง 10 % ที่ต้องใช้ไปกับการย่อยอาหารที่คุณกิน อาหารมื้อใหญ่ยังทำให้ร่างกายทำงานหนักมากกว่าการกินของว่างบ่อย ๆ ของว่างยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ทำให้คุณมีพลังงานเพียงพอตลอดทั้งวัน
4.บริโภคแป้งที่ช่วยเพิ่มพลังงาน กินธัญพืชอย่างพาสต้า ข้าวแดง ข้าวโอ๊ต และขนมปังธัญพืชปริมาณหนึ่งกำมือในทุกมื้ออาหาร เราจะได้รับวิตามินบี ธัญพืชยังไม่แตกตัวเป็นน้ำตาลได้เร็วเกินไปด้วย ธัญพืชประกอบด้วยเส้นใยอาหาร เส้นใยอาหารจะทำให้น้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลง หมายความว่า เราจะได้รับพลังงานอย่างช้า ๆ แต่ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
5.บริโภคโปรตีนเพิ่มพลังงาน ในมื้อกลางวันควรกินอาหารที่มีโปรตีนปริมาณเท่ากับไพ่หนึ่งสำรับ และถ้าคุณอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของระดับพลังงานในร่างกาย ลองกินโปรตีนในมื้อเช้าด้วย เช่น เนื้อ ปลา ไข่ (สองฟอง) ชีส เต้าหู้
6.ดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณ 1-2 ลิตรต่อวัน ไม่นับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนปริมาณมาก
เขียนไดอารี่อาหาร บันทึกว่าคุณกินอะไร อย่างไร เมื่อไร และที่สำคัญที่สุดไดอารี่จะช่วยให้คุณทำตาม "กฎ" และรู้ว่านิสัยอะไรที่มีส่วนทำให้ระดับพลังงานในร่างกายของคุณลดลง
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง