น้ำตาลคืออะไร?
น้ำตาลทุกชนิดจะให้ความหวาน...
ความหวานที่เกิดจากน้ำตาลเป็นส่วนผสม เช่น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำนม แต่ของที่หวานบางชนิดไม่ใช่น้ำตาล เช่น น้ำตาลเทียม ขัณฑสกร หญ้าหวาน
น้ำตาลเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษต่อร่างกาย?
น้ำตาลเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย...ร่างกายเราจะขาดน้ำตาลไม่ได้เลย ถ้าเราขาดน้ำตาลในกระแสเลือดสมองจะหยุดทำงานทันที เราจะตายในเวลาไม่นาน ร่างกายเราจะต้องคงระดับน้ำตาลในกระแสเลือดไว้ในระดับที่เหมาะสม
ระดับน้ำตาลขั้นต่ำ...ต้องไม่ต่ำกว่า...70 มก./ดล.
ระดับน้ำตาลขั้นสูง...ต้องไม่เกิน...110 มก./ดล.
ในคนที่น้ำหนักประมาณ 50 กก. จะมีเลือดไหลเวียนอยู่ในระบบหมุนเวียนโลหิตประมาณ 4,000 มล. หรือ 4 ลิตร ในเลือด 4 ลิตร ถ้ามีระดับน้ำตาล 70 มก./ดล. จะมีน้ำตาลอยู่เพียง 2,800 มิลลิกรัม เท่ากับ 2.8 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำตาลประมาณครึ่งช้อนชาเท่านั้นเอง (น้ำตาล 1 ช้อนชา เท่ากับน้ำตาล 5 กรัม)
ทำไมร่างกายจึงกำหนดให้มีน้ำตาลในกระแสเลือดน้อยมาก? ทั้ง ๆ ที่ร่างกายจะขาดน้ำตาลไม่ได้เลย ถ้าขาดจะตายทันที แล้วทำไมร่างกายจึงไม่เก็บน้ำตาลไว้ในกระแสเลือดมาก ๆ คำตอบ คือ ร่างกายมีระบบน้ำตาลสำรอง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า กลัยโคเจน ซึ่งน้ำตาลสำรองเกิดจากร่างกายเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดที่มีมากเกินไปให้เป็นน้ำตาลสำรองเก็บไว้ในอวัยวะทุกส่วนทั่วร่างกาย มีเพียงอวัยวะเดียวที่ไม่มีน้ำตาลสำรองเลย คือ สมอง
น้ำตาลสำรองเป็นน้ำตาลเชิงซ้อนถูกจัดว่าเป็นแป้ง ถ้าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำร่างกายจะละลายน้ำตาลสำรองเพื่อให้ได้น้ำตาลกลูโคส ให้อวัยวะที่เป็นเจ้าของน้ำตาลสำรองใช้ก่อน เมื่อมีน้ำตาลกลูโคสเหลือใช้จึงจะมาเพิ่มเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด เพื่อทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น
เหตุผลที่สมองได้รับผลกระทบทันทีเมื่อน้ำตาลในกระแสเลือดมีค่าต่ำกว่า 70 มก./ดล. เพราะว่าสมองไม่มีน้ำตาลสำรองอยู่เลย เหตุผลที่ร่างกายไม่เก็บน้ำตาลสำรองไว้ในสมองเพราะธรรมชาติต้องการให้สมองเป็นตัวควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่มีความไวสูง
น้ำตาล...มีแต่ประโยชน์...หรือมีโทษด้วย?
ถ้าน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่ในระดับ 70-110 มก./ดล. จะมีแต่ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้ามีระดับต่ำกว่านี้หรือสูงกว่านี้จะเกิดโทษต่อร่างกาย
ถ้าระดับ...น้ำตาลในกระแสเลือดระดับต่ำกว่า 70 มก./ดล.
จะมีผลกระทบต่อการทำงานของสมองทันที
ถ้าระดับยังเกิน 50 มก./ดล. สมองจะทำงานแปรปรวนมาก
ถ้าระดับต่ำกว่า 50 มก./ดล. สมองจะหยุดทำงานทันที
ถ้าทิ้งไว้นานสมองก็จะตาย ร่างกายจะเร่งแก้ไขโดยระดมละลายน้ำตาลสำรองจากทุกอวัยวะเพื่อยกระดับน้ำตาลในกระแสเลือดขึ้นมา
ถ้าระดับ...น้ำตาลในกระแสเลือดระดับสูงกว่า 110 มก./ดล.
ทำไมร่างกาย...จึงต้อง...รีบลด...ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลง?
เหตุผล คือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่สูงเกินไปเป็นพิษต่อ
เหตุผลในการห้ามรับประทานน้ำตาล เพราะรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันคนไทยรับประทานน้ำตาลมากเกินไป มากเกินไประดับไหน ถึงขั้นระดับวิกฤต
วิกฤตแรก คือ...
ปัจจุบันคนไทยรับประทานน้ำตาลเกินกว่าธรรมชาติกำหนดหลายพันเปอร์เซนต์ และน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดแบบพรวดพลาด รวดเร็วมาก แถมยังซ้ำ ๆ ซาก ๆ ตลอดทั้งวัน
ธรรมชาติกำหนดให้มีจำนวนน้ำตาลที่ใช้หมุนเวียนในกระแสเลือดในปริมาณน้อยมาก คือ ประมาณครึ่งช้อนชา แต่ในปัจจุบันอาหารและเครื่องดื่มที่ขายในสังคมไทยเปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง เมื่อก่อนเราเคยแยกอาหารออกเป็น 2 ประเภท คือ อาหารคาวและอาหารหวาน แต่ในปัจจุบันเราเหลืออาหารอยู่ประเภทเดียวแล้ว คือ อาหารหวาน เพราะอาหารคาวเมื่อก่อนไม่มีการใส่น้ำตาลในการปรุง แต่ปัจจุบันอาหารคาวเกือบทุกชนิดใส่น้ำตาลในการปรุง
ตัวอย่างอาหารคาวที่มีการใส่น้ำตาลในการปรุง
ยำต่าง ๆ เกือบทุกชนิด ใส่น้ำตาล
ต้มยำต่าง ๆ เกือบทุกชนิด ใส่น้ำตาล
แกงส้มต่าง ๆ เกือบทุกชนิด ใส่น้ำตาล
น้ำพริกต่าง ๆ เกือบทุกชนิด ใส่น้ำตาล
บางคนผัดผัก..ยังมีการใส่น้ำตาล
บางคนกินก๋วยเตี๋ยว...เติมน้ำตาล 3 ช้อนใหญ่
ในปัจจุบันชนิดของอาหารที่มีการใส่น้ำตาลลงไป นอกจากมีหลากหลายมากขึ้นหลายเท่าตัว ยังมีการปรุงรสให้หวานมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพื่อเอาใจลูกค้าเพราะคนไทยติดความหวานมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งขนมไทย-ขนมฝรั่ง-คุกกี้-ไอศกรีม-ขนมเค้ก ขายดิบขายดีเพราะเพิ่มความหวาน
กลับมาที่ธรรมชาติกำหนดให้มีน้ำตาลในกระแสเลือด คือ ครึ่งช้อนชา เรามาดูจำนวนน้ำตาลในเครื่องดื่มยอดนิยม
ในบางวันถ้ารวมเครื่องดื่มทุกชนิด อาหารทุกชนิด ขนมทุกชนิด ปริมาณน้ำตาลที่เรารับประทานอาจมีปริมาณมากเกินกว่าที่ธรรมชาติกำหนดหลายหมื่นเปอร์เซนต์
การรับประทาน ข้าว เผือก มัน เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ฯลฯ ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยแป้งในอาหารเหล่านี้เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง กว่าจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล น้ำตาลจากการย่อยอาหารประเภทแป้งจึงใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเริ่มดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าเรารับประทานอาหารที่ใส่น้ำตาลร่างกายไม่ต้องใช้เวลาในการย่อยแป้งเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลที่เราใส่ในอาหารเข้าสู่กระแสเลือดได้เลย
ยิ่งเป็นน้ำตาลในเครื่องดื่ม น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทันทีที่ดื่ม ถ้าเราดื่มชาเขียว 1 ขวด น้ำตาล 15 ช้อนชาจะทะลักเข้าสู่กระแสเลือดภายในเวลา 10 นาที
ติดตามต่อใน "ควรรับประทานน้ำตาลให้น้อยลง 2"
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง