Mega Lecitin เมก้า เลซิติน 100 เม็ด

Mega Lecithin เมก้า เลซิติน

เลซิตินอาหารบำรุงสมอง ขับสารพิษจากตับและไต ลดคอเลสเตอรอล

            เลซิตินคือสารประกอบของไขมันและฟอสฟอรัสเรียกว่า ฟอสฟอลิปิด(phospholipid)เป็นการสกัดไขมันจากถั่วเหลืองแต่มรกรรมวิธีที่ซับซ้อนกว่าการทำน้ำมันถั่วเหลืองอย่างธรรมดา ฟอสฟอลิปิด เป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบหลักของผนังเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์สมอง ซึ่งสารสำคัญที่พบในเลซิตินคือ ฟอสฟาทิดิล โคลีน(phosphatidyl choline)ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพของความจำปละเป็นสารบำรุงสมอง

แหล่งอาหารที่พบเลซิติน

          เราสามารถพบเลซิตินได้ในอาหารหลายชนิดทั้งในพืชและสัตว์เช่น ไข่แดง ตับ ถั่วต่างๆ ข้าวสาลีทั้งเมล็ด น้ำมันพืช ถั่วเหลือง และข้าวโพด  เมก้า เลซิตินที่อยู่ในรูปแบบอาหารเสริมนั้นเป็นเซิตินที่สกัดได้มาจากถั่วเหลืองและยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไอโอดีนอย่างละเล็กอย่างละน้อยที่ให้พลังงานซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบประสาทและระบบย่อยอาหารในการดูดซึมไขมัน

เลซิตินพบได้ที่ใดของร่างกาย?

เลซิติน พบได้ในเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลอกหุ้มรอบเส้นใยประสาทที่ช่วยทำให้ระบบประสาทมีความแข็งแรง และช่วยในการนำกระแสประสาทให้ดีขึ้น จึงได้ชื่อว่าMega Lecithinเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและช่วยให้ความจำดีขึ้น

Mega lecithinเมก้า เลซิตินกับสุขภาพ

• เลซิติน ทำให้คอเลสเตอรอลแตกตัวและส่งผ่านผนังหลอดเลือดแดงป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งกระด้างและยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลที่สูงลงได้
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายในการต้านไวรัส
• ป้องกันการก่อนิ่วในถุงน้ำดีและช่วยขับสารพิษออกจากตับและไต
• มีความโดดเด่นในการบำรุงสุขภาพความจำในทุกเพศทุกวัย

คนที่มีระดัีบเลซิตินในน้ำดีต่ำกว่าปกติอาจก่อให้เกิดปัญหานิ่วในถุงน้ำดีได้จากการศึกษาพบว่าการรับประทานเลซิตินเป็นประจำแม้เป็นปริมาณที่น้อยเพียง 100 มิลลิกรัม วันละ 3 เวลา ก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นของเลซิตินในน้ำดีให้มากขึ้นได้และเมื่อระดับเลซิตินสูงขึ้นจะยิ่งเพิ่มการละลายของคอเลสเตอรอลได้ดีขึ้นทำให้ลดโอกาสการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

คุณสมบัติพิเศษของฟอสฟาทิดิลโคลีน(phosphatidyl choline)ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญในเลซิติน

• มีประโยชน์สำหรับการทำงานของตับ โดยทำใหเยื่อหุ้มเซลล์ตับแข็งแรงปกป้องไม่ให้สารพิษผ่านเข้าไปได้แต่ยอมให้สารอาหารบางชนิดเข้าสู่เซลล์ได้ตามต้องการ
• ทำให้ตับมีเซลล์ที่อ่อนเยาว์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ โดยเป็นตัวกระตุ้นกระบวนการแบ่งเซลล์ทำให้มีเซลล์ใหม่ๆ เข้ามาแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพและเป็นโรค
• การรับประทาน ฟอสฟาทิดิลโคลีน เป็นประจำทำให้คนปกติมีระดับสื่อสารสื่อสมองที่เรียกว่า อะเซททิลโคลีน(Actylcholine)ในสมองมากขึ้น ซึ่งสารนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ อีกทั้งช่วยป้องกันความจำเสื่อมหรืออาการหลงลืมตลอดจนลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความจำเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ลงได้เพราะการที่มีระดับอะเซททิลโคลีนในสมองน้อยเป็นลักษณะเริ่มต้นอย่างหนึ่งของผู้ที่เริ่มเป็นอัลไซเมอร์